วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

++การดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action)


บทความ  :  การดำเนินคดีแบบกลุ่ม  (Class  Action)

                                การดำเนินคดีแบบกลุ่ม  (Class  Action)  เป็นรูปแบบการดำเนินคดีแทนผู้เสียหายจำนวนมาก  ที่มีมาย้อนอดีตไปในยุคกลางของอังกฤษโดยเป็นกระบวนการพิจารณาในศาลเอควิตี้  และมีการนำไปใช้และพัฒนาจนประสบความสำเร็จในประเทศสหรัฐอเมริกา  โดยมีการกำหนดหลักการเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่มไว้ใน  Rule  23  ของกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งของสหรัฐอเมริกา  ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการอนุญาตให้มีการดำเนินคดีแบบกลุ่มสำหรับคดีเรียกร้องให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนและคดีที่ขอให้ศาลสั่งห้ามกระทำการ  ซึ่งการดำเนินคดีแบบกลุ่มของประเทศสหรัฐอเมริกานี้  มีอิทธิพลแพร่หลายไปในประเทศกลุ่ม  Common  Law  เช่น  แคนนาดา  ออสเตรเลีย  และประเทศในกลุ่ม  Civil  Law  เช่น  จีน  อินโดนีเซีย
                                สำหรับประเทศไทยก็มีกฎหมายวีพิจารณาความแพ่งที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมากไว้อยู่บ้าง  แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและไม่สามารถรองรับกรณีที่มีผู้เสียหายมากขึ้นกว่าคดีลักษณะเดิมๆ  ที่เคยเป็นมา  กล่าวคือ  ในกรณีที่มีผู้เสียหายได้รับความเสียหายจากข้อเท็จจริงอันเดียวกันนั้นจะต้องเข้าร่วมดำเนินคดีด้วยตนเอง  (เช่น  คดีละเมิด  คดีผิดสัญญา  คดีเรียกร้องตามสิทธิที่เกิดขึ้นจากกฎหมายต่างๆ  เช่น  กฎหมายสิ่งแวดล้อม  กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค  กฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน  กฎหมายเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  เป็นต้น)  และการที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการพิจารณาก่อให้เกิดความซ้ำซ้อนในการพิจารณาคดีที่ต้องมีการแยกฟ้องแยกพิจารณาสืบพยาน  และผลของคำพิพากษาอาจไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน  ทั้งที่เป็นผลของคำพิพากษาในเรื่องเดียวกัน  ต่อจำเลยคนเดียวกัน จากการกระทำอย่างเดียวกัน  แต่คำพิพากษาต่างกัน  เช่นนี้อาจก่อให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติตามคำพิพากษาที่ขัดแย้งได้  เช่น  กรณีที่ผู้เสียหายหลายคนต่างฟ้องคดีจำเลยเพื่อขอให้มีการเพิกถอนสัญญาซื้อขายหลักทรัพย์กับจำเลย  ศาลที่พิพากษาในแต่ละคดีอาจมีคำพิพากษาต่างกันออกไป  เช่น  ในคดีหนึ่งพิพากษาให้จำเลยเลิกสัญญาซื้อขายหลักทรัพย์  แต่อีกคดีหนึ่งพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย  ดังนั้น  เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวข้างต้นนี้จึงได้มีการนำหลักการเกี่ยวกับการดำเนินคดีแบบกลุ่มมาใช้  โดยนำหลักการส่วนใหญ่มาจากการดำเนินคดีแบบกลุ่ม  (
Class Action)  ตาม  Rule  23  แห่ง  Ferderal  Rules  of  Civil  Procedure  ของประเทศสหรัฐอเมริกา

 หลักการสำคัญของการดำเนินคดีแบบกลุ่ม

                1. ความเหมือนกันของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของโจทก์เองและสมาชิกกลุ่ม

                                ความเหมือนกันของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายนี้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการร้องขอให้ดำเนินคดีแบบกลุ่ม  ซึ่งที่จะร้องขอให้มีการดำเนินคดีแบบกลุ่มได้นั้นจะต้องปรากฏว่ามีกลุ่มบุคคลที่มีสิทธิอย่างเดียวกันอันเนื่องมาจากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเดียวกัน  และมีลักษณะเฉพาะของกลุ่มเหมือนกัน  แม้ว่าจะมีความเสียหายที่ต่างกันก็ตาม  ซึ่งสามารถแยกองค์ประกอบได้ดังนี้

1.1  สิทธิอย่างเดียวกันที่มาจากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเดียวกัน

                                ตัวอย่างเช่น  การจำหน่ายยาที่บกพร่องและมีผลข้างเคียงในตลาดมาเป็นระยะเวลา  4  ปีโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวยาและสูตรยาแต่อย่างใด  เมื่อผู้ใช้ยาได้รับผลกระทบจากความบกพร่องของยานั้นก็เกิดสิทธิที่จะเรียกร้องความเสียหายจากข้อเท็จจริงที่จำเลยได้จำหน่ายยาดังกล่าว  ลักษณะของสิทธิที่เกิดขึ้นนี้แม้ผู้เสียหายจะได้ซื้อยามาในระยะเวลาที่แตกต่างกัน  และซื้อยาจากสถานที่ต่างกันก็ตามแต่ก็ยังถือได้ว่าสิทธิเรียกร้องความเสียหายนั้นเป็นสิทธิเดียวกัน  ที่มีข้อเท็จจริงเดียวกัน  และเป็นสิทธิที่อาศัยหลักกฎหมายเดียวกัน
                                แต่อย่างไรก็ตามหากข้อเท็จจริงปรากฏว่า  ได้มีการปรับเปลี่ยนตัวยาและสูตรยาจากเดิมออกไป  ซึ่งกรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่ม  เนื่องจากกลุ่มบุคคลนั้นจะต้องมีสิทธิเรียกร้องอย่างเดียวกันที่มาจากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเดียวกัน

                                2.2  ลักษณะเฉพะของกลุ่มเหมือนกัน  แม้จะมีลักษณะความเสียหายแตกต่างกัน

                                ตัวอย่างเช่น  การที่โรงงานปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำลำธาร  เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบเรื่องเดียว  ผู้ที่ได้รับความเสียหายมีลักษณะเฉพาะจากการที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำที่มีลักษณะอย่างเดียวกัน  แม้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล  เช่น  บางคนอาจได้รับความเสียหายทางร่ากาย  บางคนอาจได้รับความเสียหายทางทรัพย์สิน  แต่อย่างไรก็ตามบทบัญญัติเรื่องนี้ก็ถือว่าลักษณะของกลุ่มยังคงเหมือนเดิม  และผู้เสียหายก็ยังคงถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่สามารถดำเนินคดีแบบกลุ่มได้

 2.  ผลของคำพิพากษา

                                ผลของคำพิพากษาจะผูกพันสมาชิกกลุ่มทุกคน  ซึ่งเป็นการยกเว้นหลักคำพิพากษาผูกพันเฉพาะคู่ความ  ตามมาตรา  145  แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

                3.  การออกจากกลุ่ม

                                แม้จะมีการกำหนดความหมายของผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกกลุ่ม  และจะต้องผูกพันตามคำพิพากษาตามคำพิพากษาในคดีแบบกลุ่มก็ตาม  แต่สมาชิกกลุ่มก็มีสิทธิแสดงเจตนาต่อศาลในการขออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่ม  และไม่ประสงค์จะผูกพันตามคำพิพากษาในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม  โดยต้องการที่จะฟ้องคดีด้วยตนเองได้

                4.  การถอนฟ้อง

                                หลักการถอนฟ้องของการดำเนินคดีแบบกลุ่มนั้น  กำหนดให้เป็นดุลพินิจของศาลเป็นผู้พิจารณาในทุกกรณีว่าสมควรอนุญาตให้ถอนฟ้องหรือไม่  โดยคำนึงถึงประโยชน์ของสมาชิกกลุ่มเป็นสำคัญ  และต้องมีการแจ้งให้สมาชิกกลุ่มทราบเพื่อให้สมาชิกกลุ่มมีโอกาสคัดค้าน  เพราะถ้าปล่อยให้โจทก์ถอนฟ้องตามหลักกฎหมายทั่วไป  โจทก์อาจอาศัยการดำเนินคดีแบบกลุ่มเป็นเครื่องมือในการบีบบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้กับตน  เมื่อจำเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายก็ขอถอนคำฟ้อง  ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมาชิกกลุ่มที่เป็นบุคคลจำนวนมากได้

                5.  โจทก์ผู้แทนกลุ่มและทนายความโจทก์

                                ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม  โจทก์และทนายความโจทก์จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการดำเนินคดี  ดังนั้น  โจทก์และทนายความโจทก์จะต้องมีคุณสมบัติที่จะทำหน้าที่คุ้มครองผลประโยชน์ให้กับสมาชิกกลุ่มได้อย่างเพียงพอและเป็นธรรม  โดยศาลจะต้องคัดเลือกผู้ที่จะเป็นโจทก์และทนายความฝ่ายโจทก์อย่างละเอียดรอบคอบ

                                อย่างไรก็ตาม  แม้ว่าการดำเนินคดีแบบกลุ่มนั้นจะมีข้อดีอยู่หลายประการคือ  ทำให้ประชาชนที่มีส่วนได้เสียอาจได้รับความคุ้มครองโดยไม่ต้องเข้ามาในคดีด้วยตนเองอย่างคดีสามัญ  และไม่มีการดำเนินคดีซ้ำซ้อนในเรื่องเดียวกันหลายครั้ง  ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของภาครัฐและประชาชนคำวินิจฉัยในเรื่องเดียวกันมีความเป็นเอกภาพ  ทำให้การดำเนินคดีแบบกลุ่มในศาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  แต่การดเนินคดีแบบกลุ่มก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน  กล่าวคือ  วิธีการกำหนดสมาชิกของกลุ่มบางกรณีทำได้ยาก  การบอกกล่าวไปยังสมาชิกกลุ่มอาจไม่ทั่วถึงทำให้ผู้เสียหายบางส่วนไม่ได้รับการคุ้มครองซึ่งอาจมีผลเสียต่อสมาชิกกลุ่มได้  รวมทั้งการบังคับคดีในประเภทนี้มีความยุ่งยาก  เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก  และจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างจำกัด




วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

++ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา


ตลาดน้ำสี่ภาค



สมัยนี้ไม่รู้เป็นไรผู้คนเกิดนิยมชมชอบอะไรที่เป็นวัฒนธรรมเก่าๆ ชีวิตที่เรียบง่าย อย่างตลาดน้ำต่างๆที่แต่ก่อนไม่ค่อยมีคนไปเที่ยว แต่เี๋ดี๋ยวนี้เหรอมีคนไปเที่ยวเยอะมากขึ้นจนตลาดเก่ามีไม่พอให้เที่ยวแล้ว
วันนี้ผมจะพาไปเที่ยวตลาดน้ำที่ไม่ธรรมดาแห่งหนึ่ง ตลาดน้ำแห่งนี้อยู่ที่ชลบุรี พัทยานี่เองครับ มีชื่อว่าตลาดน้ำ 4 ภาค ตลาดน้ำแห่งนี้เป็นตลาดที่สร้างขึ้นมาใหม่แต่ทำเป็นเชิงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต สังเกตุได้จากร้านค้าจะทำมาจากไม้ทั้งหมด และตลาดแห่งนี้ได้รวบรวมของดีทั้ง 4 ภาค ไว้ในตลาดน้ำแห่งนี้ เรียกได้ว่า วันเดียวเที่ยวได้ 4 ภาคเลย เหนือ กลาง อีสาน ใต้
และที่น่าจะถูกอกถูกใจคือตลาดน้ำแห่งนี้ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเนื่องจากเป็นกันจนถึงค่ำ เข้าชมได้ฟรี เอาละ เดี๋ยวจะหาว่าโปรโมทมากไป ผมพาเข้าไปชมด้านในดีกว่า ข้างในตลาดน้ำ 4 ภาคจะแบ่งออกเป็นภาค ให้เลือกเดินชมกันครับ
สินค้าที่นี่จะเน้นไปทางการเกษตร ศิลปะ หัตถกรรม ขนมโบราณ อาหารสารพัดอย่าง อย่างร้านนี้ขายเสื้อลายการ์ตูนไทยๆ น่ารักดีครับ
ถ้าเดินจนเหนื่อยก็แวะร้านโกเฮง จิบกาแฟโบราณ โอเลี้ยง ชาดำเย็นกัน ตกแต่งร้านไำด้ดูดีครับ
ผมชอบร้านนี้ครับ MARCO.. ชนพื้นเมือง นอกจากผลงานศิลปะที่สวยงามแล้วยังเล่นดนตรีสดๆให้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ฟังกัน เป็นดนตรีเปิดหมวกใครอยากสนับสนุนก็ใส่เงินลงไปที่กล่องไวโอลินด้านหน้า
ถ้าเดินจนเมื่อยอยากจะลงเรือดูรอบๆตลาดน้ำ ก็มีบริการพายเรือพาเที่ยวรอบตลาด 
ส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติครับที่ลงเรือสงสัยคนไทยคงไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่
ร้านพวกผกา เน้นพวกของตกแต่งบ้าน โมบาย
จากที่ไปหาอ่านมาเค้าบอกว่าพื้นที่ตลาดน้ำสี่ภาคนั้นเดิมทีเป็นบึงน้ำธรรมชาติ เป็นป่ากก แล้วพอรื้อป่ากกออกถึงได้รู้ว่าพื้นที่เป็นบึงเลยมีไอเดียว่าจะทำเป็นตลาดน้ำ ทำให้เป็นคล้ายๆสวนสาธารณะให้มีคนมาเดิน สัมผัสความเป็นไทย ดูวัฒนธรรม ไม่อยากให้นักท่องเที่ยวคิดว่าพัทยามีแต่สิ่งยั่วยุ ที่เที่ยวกลางคืนเท่านั้น ตอนแรกผมเข้าใจว่าบึงนี้ขุดขึ้นมาเสียอีก
การเดินทาง
  • ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ผ่านพัทยากลาง พัทยาใต้ ตลาดน้ำ4ภาค จะอยู่เลยทางแยกไปพัทยาใต้ไปหน่อย ก่อนถึงจะเห็นป้ายตลาดน้ำ 4 ภาคตัวใหญ่เลย ตลาดน้ำจะอยู่ติดกับถนนทางซ้าย ปกติที่จอดรถด้านหน้าตลาดน้ำ4ภาคจะเต็มตลอดเนื่องจากมีที่จอดเพียงไม่กี่คัน ให้เลี้ยวเข้ามาจอดด้านข้างหรือด้านหลังตลาดน้ำสี่ภาคได้
แผนที่ตลาดน้ำ4ภาค จาก www.pattayafloatingmarket.com
คลิกที่ภาพเพื่อขยาย


เมื่อวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552 ได้ไปเที่ยวตลาดน้ำสี่ภาคอีกครั้ง เลยเอาภาพอัพเดทล่าสุดมาฝากกัน

ทางเดินเข้าตลาด
ท้องฟ้ามืดครึ้ม
ร้านวาดรูป


























++ตลาดน้ำอโยธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ตลาดน้ำอโยธยา




ภาพลูก ๆ หลาน ๆ กับป้ายด้านหลังนี้มีอะไรให้จับผิด ใครรู้-คนนั้นเก่ง(ธ่อ..นึกว่าจะมีรางวัลให้)


สองภาพสุดท้ายข้างล่างนี้ถ่ายที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา(ชื่อร้านชายน้ำ) บรรยากาศดี กับข้าวอร่อย ทั้งยังได้เห็นแสงสุดท้ายของวันด้วย ทำเอาอารมณ์หวั่นไหวอย่างไรบอกไม่ถูก ดีที่ตอนนี้ฝึกตามดูรู้อารมณ์ตัวเองอยู่บ่อย ๆ เลยไม่ฟุ้งซ่านเท่าไหร่(ประมาณอารมณ์ศิลปินหง่ะ)..แล้วพบกันใหม่(อ้อ..ถ้าใครเพิ่งเข้ามาอ่านกระท่อมบล็อกยายเช้า เอนทรี่นี้อาจไม่ได้อ่านอะไรเท่าไหร่ ไม่เป็นไร เพราะมีวิธีแก้ ลองชำเลืองไปมองเรื่องที่เรียงเป็นตับทางขวามือสิ น่าอ่านออก..ลองดิ๊)




++ตลาดคลองสวนร้อยปี

เดินเที่ยวตลาดคลองสวน 100 ปี  จังหวัดฉะเชิงเทรา



ตลาดคลองสวน 100 ปี เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ในอดีตคลองสวนเป็นเส้นทางสำหรับเดินทางไปกรุงเทพมหานคร จากประตูน้ำท่าถั่ว (ฉะเชิงเทรา) แล่นผ่านตลาดคลองสวน ก่อนจะแล่นเข้าสู่ประตูน้ำ (วังสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตของชาวคลองสวนทั้งชาวไทยจีน ชาวไทยพุทธ ชาวไทยมุสลิม วัฒนธรรมผสมผสาน การดำรงชีวิตประจำวันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ซึ่งจะเห็นได้จากสิ่งก่อสร้าง เช่น โรงเจ วัด สุเหร่า จะตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน และตลาดแห่งนี้จะเป็นแหล่งนัดพบของผู้คนมานั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติอันได้แก่ ร้านกาแฟ สำหรับผู้ที่สนใจจะชมบรรยากาศของวิถีชีวิตร่วมสมัยย้อนยุคกว่า 100 ปี ชิมอาหารอร่อยทั้งอาหารคาวที่มีสูตรเฉพาะ ขนมหวาน กาแฟสูตรโบราณดั้งเดิม ชมของเก่าและสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า สามารถแวะชมได้ที่ตลาดคลองสวน 100 ปีแห่งนี้แห่งเดียว 


จากลานจอดรถเดินเข้าสู่ประตูตลาดคลองสวน 100 ปี เมื่อจอดรถเสร็จสรรพจะเริ่มเดินเข้าสู่ตลาดจะเห็นด้านบนของทางเข้าเขียนชื่อตลาดไว้ จากจุดนี้จะเป็นทางเดินยาวตลอดถึงกันหมด ด้วยเส้นทางเดียว และทางเดินจะอยู่ริมคลองโดยตลอด



 รางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นปี ๒๕๔๗ 
รางวัลนี้ถูกติดประดับไว้ตรงทางเดินที่เห็นได้ชัดของตลาดคลองสวน 100 ปี




เดินมาถึงท่าเรือหาเต่าปล่อยตามความเชื่อ เนื่องมาจากเป็นวันคล้ายวันเกิดคุณ poomie สมาชิกเหนียวแน่นของทัวร์ออนไทย วันนี้เลือกหาเต่ามาปล่อยเป็นสิริมงคลกัน



ปล่อยเต่าปล่อยหอย ที่ท่าอัศวานิชย์ มีทางลงไปริมน้ำทำให้สามารถปล่อยเต่าได้สะดวก ตรงนี้มีผู้นำเต่าและหอยมาขายเป็นประจำ



 หัวมุมทางเดินถึงตรงนี้มีทางเดินต่อไปด้านขวามือ 



พิธีพระราชทานรางวัล รางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งตลาดคลองสวน 100 ปีได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในปี ๒๕๔๗ โดยมีนายสุธีร์ อัศวานิชย์ นายกเทศมนตรีตำบลคลองสวนเป็นผู้แทนเข้ารับรางวัลพระราชทานเมื่อวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗










 ภาพตลาดคลองสวนในอดีต ติดไว้ที่บริวเณเดียวกันกับภาพพิธีพระราชทานรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น




ทานอาหารในเรือเพิ่มบรรยากาศ ตรงทางเข้าสู่ตลาดคลองสวน มีอาหารมากมายบริการและทุกร้านสามารถนำอาหารที่ซื้อมาทานในเรือที่จัดไว้ให้ลำนี้ได้เหมือนกันหมด ได้อรรถรสในการกินดีครับ


  ตุ๊กตาสีสันสดใส หนึ่งในหลายๆ ผลิตภัณฑ์ที่นำมาวางขายในตลาดคลองสวนแห่งนี้




ทางเดินอันยาวไกลในตลาดคลองสวน ตามความรู้สึกของนักเที่ยวตลาดน้ำและตลาดโบราณของทีมงานทัวร์ออนไทย บอกได้เลยว่าตลาดคลองสวน 100 ปีแห่งนี้ยาวไม่เป็นรองใครแน่ๆ ผมไปหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเดินจนสุดทางสักครั้งครับ




 ผลหมากรากไม้ นอกจากจะมีสินค้าที่ระลึกหรือของใช้วางจำหน่าย 
เรื่องของกินปละผลไม้ก็มีไว้บริการเช่นกัน




ประชาสัมพันธ์ตลาดคลองสวน 100 ปี จุดนี้เป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งนอกจากจะมีไว้บริการประชาสัมพันธ์ประกาศต่างๆ หรือประกาศหาเด็กหายคนหลงแล้ว ยังมีของเก่าๆ ไว้แสดงให้นักท่องเที่ยวได้ลำรึกอดีตกันมากมายหลายอย่าง




  ตู้แสดงบุหรี่เก่า แต่ละยี่ห้อแทบจะไม่เคยเห็นกันทั้งนั้น




ภาพในร้านกาแฟแป๊ะหลี ภาพเหล่านี้แสดงไว้ในร้านกาแฟเล็กๆ ซึ่งบ่งบอกว่าแป๊ะหลีได้ลงนิตยสารและข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ต่างๆ มากมาย และมีภาพที่นิตยสารที่นี่ 8 ริ้ว มอบไว้ให้ด้วย




 สมุดเยี่ยมแป๊ะหลี แป๊ะหลีกำลังเปิดให้ชมสมุดเยี่ยมกองโตที่มีคนมาเขียนไว้
 ปัจจุบันนี้สมุดเยี่ยมแป๊ะหลี มี 62 เล่มแล้ว




ประโยชน์ของกาแฟ ภาพแป๊ะหลีกับข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับประโยชน์ของการดื่มกาแฟ ด้วยเหตุนี้กาแฟแป๊ะหลี จึงเป็นร้านกาแฟที่ดังที่สุดในตลาดคลองสวน 100 ปีก็ว่าได้ เมื่ออดีตตลาดคลองสวนเป็นจุดแวะพักและเป็นศูนย์รวมของชุมชน จุดแลกเปลี่ยนสินค้าและเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญและสะดวกที่สุด หากมีงานกุศล เช่น การขุดคลอง ทำถนน ต่างก็จะมาร่วมแรงร่วมใจพัฒนาสาธารณูปโภคร่วมกัน จุดพบปะนั่นคือร้านกาแฟ ทุกคนแม้ต่างศาสนาก็สามารถเข้ามาที่จุดนัดพบแห่งนี้ได้ มาแลกเปลี่ยนความคิด ประสบการณ์การดำเนินชีวิต พูดคุยเรื่องข่าวสารเหตุบ้านการเมือง ร้านกาแฟจึงเป็นเสมือนสิ่งเสพติดที่ผู้คนในชุมชนต้องมาพบกันเป็นประจำทุกเช้าอย่างขาดเสียมิได้ แม้ในทุกวันนี้ร้านกาแฟก็ยังเป็นจุดนัดพบของชุมชน




   ร้านพับเหล็ก กับงานปั้น 




 ติ้ว เครื่องมือนับจำนวนกระสอบข้าวสารสำหรับจับกัง หรือกรรมกรแ ปัจจุบันตลาดคลองสวน 100 ปี โดยความดูแลของสำนักงานเทศบาลตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และสำนักงานเทศบาลตำบลคลองสวน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ได้สนับสนุนให้ชุมชนร่วมกันอนุรักษ์บ้านเรือน รวมทั้งการดำเนินชีวิตให้คงไว้ซึ่งวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และส่งเสริมให้ตลาดคลองสวน เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเรียนรู้ดูวิถีชีวิต รวมทั้งสิ่งปลูกสร้างที่ยังมีกลิ่นอายในรัชสมัยรัชกาลที่ 5




   เครื่องจักรสานสำหรับดักปลา เครื่องมือดักจับปลาชนิดหนึ่งสานด้วยไม้ไผ่ 
ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีใช้กันอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก













ปฏิทิน