“ภูฝอยลม” เป็นพื้นที่ภูเขาที่มีสภาพอุดมสมบรูณ์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติพันดอน-ปะโค อำเภอหนองแสงจังหวัดอุดรธานี สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 600 เมตร ตั้งชื่อตามชื่อของไลเคนชนิดหนึ่ง ชื่อว่า “ฝอยลม”ซึ่งเกาะอาศัยอยู่ตามกิ่งของต้นไม้ใหญ่กระจายอยู่เต็มพื้นที่ ต่อมาได้มีการให้สัมปทานทำไม้และมีราษฎรเข้ามาจับจองและบุกรุกพื้นที่เพื่อจัดตั้งหมูบ้าน จึงทำให้สภาพป่าเริ่มเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ จนทำให้ ”ฝอยลม”เริ่มน้อยลง จนแทบจะหาไม่ได้ในพื้นที่
ในระหว่างปี 2538-3532 ส่วนราชการต่างๆนำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ในขณะนั้น (นายสายสิทธิ พรแก้ว) ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายราษฎร เหล่านั้นอกจากพื้นที่ป่า โดยจัดให้อยู่พื้นที่ใหม่ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบกับการทำลายนิเวศ
ปี 2533 สำนักงานป่าไม้เขตจังหวัดอุดรธานี ได้จัดอบรมเยาวชน เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ชื่อว่า “โครงการเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้” เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงทัศนะคติให้คนรุ่นใหม่ได้หันมาสนใจ และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ต่อมาในปี 2535 ได้ทำการปรับปรุงหลักสูตรและกิจกรรมอบรมให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ละเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เป็น “โครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร” โดยใช้ชื่อย่อว่า “ย.พ.พ.”
ปี 2541 กรมป่าไม้ได้อนุมัติงบประมาณ จัดทำโครงการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพันดอน-ปะโค ตามนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการสร้างแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นโดยพัฒนาป่าสงวนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว
ปี 2545 ในสมัยรัฐบาลของ พ.ต.ท. . ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยว โดยการนำเสนอและการสนับสนุนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี เขต 4 ( นายธีระยุทธ วานิชชัง ) จึงได้รับอนุมัติเงินก่อสร้างบ้านพักห้องน้ำ ศาลาห้องประชุม ศาลาพักผ่อนแหล่งน้ำ และปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่ ให้บริการ และเปลี่ยนชื่อโครงการใหม่เพื่อความสะดวกในการจดจำ และเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เป็น “ โครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ภูฝอยลม “ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “ Phu Foilom Ecotourism Project” และในปีเดียวกันนี้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (นายชัยพร รัตนนาคะ) ได้มีแผนการที่จะพัฒนาพื้นที่ ภูฝอยลม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาค จึงได้หางบประมาณสร้างแหล่งน้ำเพิ่มเติม สร้างถนนลาดยาง และจัดทำโครงการอุทยานก่อนประวัติศาสตร์ และเส้นทางไดโนเสาร์ โดยมรการสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ ปั้นไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ ขนาดเท่าของจริง ปั้นจระเข้และเต่าโบราณ จัดทำหุ่นจำลองและวิวัฒนาการ ของลิงจนกลายเป็นมนุษย์ จัดทำนาฬิกาแดด โดยมีเส้นทางเดินเท้าและการปรับปรุงภูมิทัศน์ในบริเวณโดยรอบ
ทั้งนี้ ในการจัดสร้างอุทยานก่อนประวัติศาสตร์ดังกล่าว ในเวลาดำเนินการเพียง 96 วัน (ตั้งแต่ วันที่ 1ตุลาคม 2545 ถึงวันที่ 4 มกราคม 2546)
สถานที่ท่องเที่ยว ภูฝอยลมแห่งนี้นั้นได้ถูกตั้งชื่อมาจากไลเคนชนิดหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ฝอยลม” ซึ่งได้เกาะอาศัยอยู่ตามกิ่งของต้นไม้ใหญ่ต่างๆ ภายในภูฝอยลมแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนช่วงหนึ่งได้มีการทำสัมปทานป่าไม้และได้เริ่มมีผู้คนอพยพเข้ามาตั้งรกรากจับจองพื้นที่ตั้งหมู่บ้าน ทำให้พื้นที่ป่าบนภูฝอยลมนั้นได้เสียหายไปเป็นจำนวนมาก จนทำให้ “ฝอยลม” เริ่มลดน้อยลงตามไปด้วย ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีในสมัยนั้นได้ทำการย้ายราษฎรออกจาพื้นที่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอีกต่อไป จนต่อมาได้มีนโยบายแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มศักยภาพในการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทำให้ได้มีเม็ดเงินสนับสนุนลงเข้ามาสู่ภูฝอยลมแห่งนี้ ทำให้ได้มีการปรับภูมิทัศน์ สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ศาลาบ้านพัก แหล่งน้ำกินน้ำใช้ ศาลาห้องประชุม ซึ่งต่อมาก็ได้มีการพัฒนาต่อเนื่องให้มีพิพิธภัณฑ์ สร้างถนนลาดยาง โดยใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Phufoilom Ecotourism Project”
ทิวทัศน์บนภูฝอยลม
สภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ บริเวณทางขึ้นภูฝอยลม
ถนนสู่ภูฝอยลม ที่สองข้างทางแวดล้อมไปด้วยป่าอันอุดมสมบูรณ์
โครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร (ย.พ.พ.)หรือ ค่ายเยาวชน
อีกมุมหนึ่งบริเวณจุดชมวิว ของโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร (ย.พ.พ.) ซึ่งจะเป็นหน้าผาสูง
จุดชมวิวบริเวณโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร(ย.พ.พ.)
อีกมุมหนึ่งบริเวณจุดชมวิว ของโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร (ย.พ.พ.) ซึ่งจะเป็นหน้าผาสูง
จุดชมวิว บริเวณโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร (ย.พ.พ.) ช่วงหน้าฝน
บริเวณศาลาพักผ่อนตรงจุดชมวิว ในโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร (ย.พ.พ.) ช่วงหน้าฝน
บริเวณโครงการเยาวชนพิทักษ์ไพร (ย.พ.พ.)ช่วงหน้าฝนจะเห็นห้องประชุมที่ใช้ในการฝึกอบรมลางๆ
บริเวณถนนบนภูฝอยลมที่มีหมอกปกคลุมบางๆ
บริเวณป้ายภูฝอยลมที่ใช้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว
บริเวณร้านสวัสดิการภูฝอยลมที่มีหมอกปกคลุมบางๆ
บริเวณสวนหย่อมบนภูฝอยลมที่มีหมอกปกคลุม
บริเวณห้องประชุมของโครงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศภูฝอยลม
บริเวณอาคารพิพิธภัณฑ์อุทยานล้านปีภูฝอยลม และเส้นทางเดินศึกษาวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต
อาคารพิพิธภัณฑ์อุทยานล้านปีภูฝอยลม
อาคารพิพิธภัณฑ์อุทยานล้านปีภูฝอยลม ช่วงหน้าฝน
รูปปั้นไดโนเสาร์ชนิดต่างๆ บริเวณเส้นทางเดินศึกษาวิวัฒนาการสิ่งมีชีวิตอุทยานล้านปีภูฝอยลม
บริเวณสวนรวมพรรณไม้ป่า 60 พรรษา มหาราชินี
อีกมุมหนึ่งบริเวณสวนรวมพรรณไม้ป่า 60 พรรษา มหาราชินี
ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณสวนรวมพรรณไม้ป่าฯ
ดูพระอาทิตย์ตกดินที่บริเวณอาคารพิพิธภัณฑ์อุทยานล้านปีภูฝอยลม
อีกมุมหนึ่ง พระอาทิตย์ตกดินที่บริเวณอาคารพิพิธภัณฑ์อุทยานล้านปีภูฝอยลม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น